หน้าแรก UPDATE กรมการขนส่งทางบก เปิดตัว!! รถโดยสารใหม่ 3 เส้นทาง เชื่อมต่อ สนามบินอู่ตะเภา

กรมการขนส่งทางบก เปิดตัว!! รถโดยสารใหม่ 3 เส้นทาง เชื่อมต่อ สนามบินอู่ตะเภา

0
กรมการขนส่งทางบก เปิดตัว!! รถโดยสารใหม่ 3 เส้นทาง เชื่อมต่อ สนามบินอู่ตะเภา

กรมการขนส่งทางบก ยกระดับการให้บริการด้วยรถโดยสารประจำทางเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภาเปิดตัว!!! รถโดยสารใหม่ 3 เส้นทางเพิ่มทางเลือก สะดวก คล่องตัวทุกการเดินทาง เพิ่มศักยภาพอู่ตะเภาให้เป็นHubการบินแห่งใหม่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)ของรัฐบาล

• เส้นทางรถโดยสารประจําทาง 3 เส้นทาง เชื่อมต่อท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา กับจังหวัดท่องเที่ยว ภาคตะวันออก ได้แก่…
– ตราด-ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
– ระยอง-ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
– ชลบุรี-ท่าอากาศ ยานนานาชาติอู่ตะเภา

? สถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร

สาย 399 ระยอง 
 มีเส้นทางและ สถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 1, อ.บ้านฉาง, ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภารวมระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 33 นาที โดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัด บี เอช ระยอง เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ

สาย 400 ชลบุรี 
 มีเส้นทางและ สถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ชลบุรี, อ.ศรีราชา, เมืองพัทยา, อ.สัตหีบ, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที มีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ

สาย 398 ตราด 
 มีเส้นทางและ สถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ตราด, จ.จันทบุรี, สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 1, ท่าอากาศยาน นานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที มีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ

ทั้งนี้ ในแต่ละเส้นทางใช้รถโดยสารปรับอากาศมาตรฐานใหม่ มีระบบความปลอดภัยครบครัน ติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์แสดงผลความเร็ว (Speed Monitor) มีระบบเบรก ABS ตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบก กําหนดและมีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยผ่านการตรวจรับรองโดย กรมการขนส่งทางบก ใช้จํานวนรถ 2-4 คัน ในแต่ละเส้นทางเพื่อให้สอดคล้องกับจํานวนเที่ยวบินประมาณ 40 เที่ยวต่อวัน และในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นถึง 50 เที่ยวต่อวัน

—————————————————————

ข่าวเต็ม

กรมการขนส่งทางบก ยกระดับการให้บริการด้วยรถโดยสารประจําทางเชื่อมต่อ สนามบินอู่ตะเภา เปิดตัว!! รถโดยสารใหม่ 3 เส้นทาง เพิ่มทางเลือก สะดวก คล่องตัวทุกการเดินทาง เพิ่มศักยภาพอู่ตะเภาให้เป็น Hub การบินแห่งใหม่ สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาล

วันนี้ (4 พฤษภาคม 2561) เวลา 10.00 น. ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภานายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดี กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับพลเรือเอก รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ, พลเรือตรีลือชัย ศรีเอี่ยม กูล ผู้อํานวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา และได้รับเกียรติจากเรือโท ศตวรรษ อนันตกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัด ระยองร่วมเปิดเส้นทางรถโดยสารประจําทาง 3 เส้นทาง เชื่อมต่อท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภากับจังหวัดท่องเที่ยว ภาคตะวันออก ได้แก่ ตราด-ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา, ระยอง-ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา, ชลบุรี-ท่าอากาศ ยานนานาชาติอู่ตะเภา เพิ่มทางเลือก สะดวก คล่องตัวทุกการเดินทาง ทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยาน นานาชาติอู่ตะเภาให้เป็นHub การบินแห่งใหม่ สนับสนุนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศ และนโยบาย การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ของรัฐบาล

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การพัฒนาเส้นทางรถโดยสารประจําทางเชื่อมต่อ สนามบินและระบบขนส่งสาธารณะอื่นภายใต้นโยบาย One Transport ของกระทรวงคมนาคม เพื่ออํานวยความสะดวก ให้กับผู้โดยสารด้านการเดินทางเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ กรมการขนส่งทางบกเล็งเห็นถึงความสําคัญจึงได้เดินหน้า พัฒนาเส้นทางรถโดยสารเชื่อมต่อให้บริการถึงภายในสนามบิน เพื่ออํานวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ปัจจุบัน ประเทศไทย มีสนามบินพาณิชย์ทั้งหมด 34 แห่ง บริหารงานโดยหน่วยงาน 4 หน่วยงาน ได้แก่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จํากัด จํานวน 6 แห่ง, กรมท่าอากาศยาน จํานวน 24 แห่ง, บริษัท การบินกรุงเทพ จํากัด จํานวน 3 แห่ง และกองทัพเรือ จํานวน 1 แห่ง ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกได้ประสานความร่วมมือเพื่อเปิดให้บริการรถโดยสารเข้าสู่สนามบินแล้วทั้งสิ้น 33 แห่ง (ยกเว้นท่าอากาศยานจังหวัดตราด อยู่ในระหว่างการกําหนดเส้นทางให้มีความเหมาะสม โดยขณะนี้มีการจัดการเดินรถ โดยสารให้บริการแล้ว 22 แห่ง ในจํานวนนี้รวมถึงการให้บริการเส้นทางรถโดยสารเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ด้วย ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างพิจารณาผู้ประกอบการขนส่งที่มีความพร้อมเข้าให้บริการ โดยจะดําเนินการครอบคลุมครบ ทุกสนามบินภายในปี 2561

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า สําหรับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาได้รับการพัฒนาให้เป็น สนามบินเชิงพาณิชย์สําหรับรองรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางมาพัทยาและจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออก กรมการขนส่ง ทางบกจึงได้พัฒนาเส้นทางรถโดยสารเข้าให้บริการถึงภายในท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รองรับและเพิ่มทางเลือกให้ ผู้โดยสารสามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองและแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดในภาคตะวันออก รวมถึงสามารถเชื่อมต่อสู่โหมด การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นโดยได้เปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการขนส่งที่มี
ความพร้อมและมาตรฐานการให้บริการอย่างเข้มข้น จนคัดเลือกได้ผู้ประกอบการเข้าให้บริการตามมาตรฐาน ความปลอดภัยและคุณภาพบริการที่กรมการขนส่งทางบกกําหนด สําหรับรถโดยสารที่จะให้บริการภายในท่าอากาศยาน นานาชาติอู่ตะเภามีทั้งสิ้น 3 เส้นทาง ได้แก่
สาย 398 ตราด – อู่ตะเภาโดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จํากัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและ สถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ตราด, จ.จันทบุรี, สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 1, ท่าอากาศยาน นานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที

สาย 399 ระยอง – อู่ตะเภาโดยมีห้างหุ้นส่วนจํากัด บี เอช ระยอง เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทาง และสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยองแห่งที่ 2, อ.บ้านฉาง, ท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภารวมระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 33 นาที
สาย 400 ชลบุรี – อู่ตะเภาโดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จํากัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและ สถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ดังนี้ จ.ชลบุรี, อ.ศรีราชา, เมืองพัทยา, อ.สัตหีบ, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที
ทั้งนี้ ในแต่ละเส้นทางใช้รถโดยสารปรับอากาศมาตรฐานใหม่ มีระบบความปลอดภัยครบครัน ติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์แสดงผลความเร็ว (Speed Monitor) มีระบบเบรก ABS ตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบก กําหนดและมีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยผ่านการตรวจรับรองโดย กรมการขนส่งทางบก ใช้จํานวนรถ 2-4 คัน ในแต่ละเส้นทางเพื่อให้สอดคล้องกับจํานวนเที่ยวบินประมาณ 40 เที่ยวต่อวัน และในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นถึง 50 เที่ยวต่อวัน ผู้ประกอบการขนส่งสามารถบริหารจัดตารางเดินรถ ให้สอดคล้องกับตารางเที่ยวบินได้อย่างเหมาะสมคาดการณ์ว่าเส้นทางรถโดยสารเชื่อมต่อท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ทั้ง 3 เส้นทาง จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากการประชาสัมพันธ์ และทิศทางการเติบโตของตลาดท่องเที่ยวในกลุ่ม จังหวัดภาคตะวันออกโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มักนิยมเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพื่อไปยัง จุดหมายปลายทางต่างๆ โดยจะเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ด้าน พลเรือเอก รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา หรือ สนามบินอู่ตะเภา อยู่ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 35 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองพัทยาประมาณ 30 กิโลเมตรจึงได้รับการเลือกให้เป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศ และเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก มีส่วนสําคัญใน การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และก่อให้เกิดการพัฒนาจังหวัดและภูมิภาค สําหรับสายการบินของ ไทยที่ให้บริการ ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยไลอ้อนแอร์ และนกแอร์ส่วนสายการบินจากต่างประเทศ ได้แก่ Azur Air, Royal Flight, North Wing, Scat Air, S7 Airlines, เสิ่นเจิ้นแอร์ไลน์ส รองรับผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละ ประมาณ 35,000 – 40,000 คน นอกจากนี้ ปัจจุบันท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาได้ขยายและเพิ่มอาคารผู้โดยสาร ใหม่ ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 3 ล้านคนต่อปี ดังนั้น การเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายในการ เดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองจึงมีความสําคัญและช่วยเพิ่มศักยภาพให้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเป็น Hub ของการ บินแห่งใหม่ของประเทศรองรับนโยบาย EEC ของรัฐบาล ที่สําคัญคือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารเดินทางได้สะดวก คล่องตัวทุกการเดินทาง

รอโหลดข้อความล่างสักครู่ แล้วพิมพ์ความรู้สึกของคุณได้เลย! ▼

comments